การนอนหลับฝันดีตื่นมาสดชื่นมีความสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายให้มีพลังงานเต็มถังพร้อมลุยในทุกๆวัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการนอนหลับไม่ดีส่งผลเสียทันทีต่อฮอร์โมน ประสิทธิภาพการออกกำลังกาย และการทำงานของสมอง
.
นอกจากนี้ยังอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก ในทางตรงกันข้าม การนอนหลับที่ดีช่วยให้คุณกินน้อยลง ออกกำลังกายได้ดีขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งคุณภาพและปริมาณการนอนหลับลดลง จริงๆ แล้ว หลายๆ คนมักนอนหลับไม่ดีเป็นประจำ
.
การกายภาพบำบัดสามารถช่วยให้การนอนหลับของคุณดียิ่งขึ้น โดยมีเหตุผลที่สามารถช่วยให้คุณหลับได้ยาวและหลับลึกยิ่งขึ้น
.
- การจัดการและลดอาการปวด
อาการปวดเรื้อรังทำให้การนอนของคุณหยุดชะงัก อาการปวดเรื้อรังสามารถนำไปสู่การนอนหลับนอนหลับได้ยาก กายภาพบำบัดสามารถลดความเจ็บปวดได้ด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การรักษาด้วยตนเอง การออกกำลังกาย และการบำบัดด้วยความร้อน ความเย็น หรือการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า การลดความเจ็บปวดจะลดการกระตุ้นเส้นทางความเจ็บปวดและการตอบสนองต่อการอักเสบ ส่งผลให้รู้สึกไม่สบายน้อยลงและการนอนหลับอย่างต่อเนื่องดีขึ้น
- การบริหารร่างกายและคุณภาพการนอนหลับ
การออกกำลังกายเป็นประจำเชื่อมโยงกับคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น การนอนหลับง่ายและเร็วขึ้น และระยะการนอนหลับลึกที่นานขึ้น การออกกำลังกายจะเพิ่มระดับเอนดอร์ฟิน ลดฮอร์โมนความเครียด (เช่น คอร์ติซอล) และส่งเสริมการปล่อยสารสื่อประสาทที่ส่งเสริมการนอนหลับ เช่น เซโรโทนินและอะดีโนซีน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจด้วยการเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายในตอนกลางวันและส่งเสริมให้อุณหภูมิร่างกายลดลงในเวลากลางคืน ซึ่งจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
- เพิ่มความยืดหยุ่นและลดความตึงรั้ง
อาการตึงและตึงของกล้ามเนื้ออาจทำให้รู้สึกไม่สบายขณะนอนหลับ การกายภาพบำบัดช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความตึงของกล้ามเนื้อ การยืดเส้นและเสริมสร้างความแข็งแรงช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการส่งออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อ ลดการสะสมของกรดแลคติค และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ง่ายต่อการค้นหาตำแหน่งการนอนหลับที่สะดวกสบาย
- การจัดท่าทางการนอนอย่างเหมาะสม
ท่าทางที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบาย โดยเฉพาะบริเวณคอ หลัง และไหล่ ซึ่งรบกวนการนอนหลับ ท่าทางที่ถูกต้องจะจัดแนวกระดูกสันหลังและลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและข้อต่อ การจัดตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยให้แน่ใจว่าจุดกดทับลดลง และระบบกล้ามเนื้อและกระดูกอยู่ในสภาวะผ่อนคลายระหว่างการนอนหลับ
- ลดความเครียดและลดความวิตกกังวล
นักกายภาพบำบัดมักจะรวมเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การฝึกหายใจเข้าลึกๆ และการผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเครียดและความวิตกกังวล เทคนิคเหล่านี้กระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (PNS) ส่งเสริมการผ่อนคลายและลดการตอบสนอง 'สู้หรือหนี' ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อลดลง และลดระดับฮอร์โมนความเครียด ซึ่งเอื้อต่อการนอนหลับที่ดีขึ้น
- หายใจได้เต็มอิ่ม
สำหรับสภาวะต่างๆ เช่น หยุดหายใจขณะหลับ นักกายภาพบำบัดสามารถสอนแบบฝึกหัดการหายใจเพื่อเพิ่มความจุของปอดและการไหลเวียนของอากาศ การทำงานของระบบทางเดินหายใจดีขึ้นทำให้ระดับออกซิเจนเพียงพอในระหว่างการนอนหลับ ช่วยลดโอกาสการตื่นขึ้นเนื่องจากหายใจลำบาก รูปแบบการหายใจที่ดีขึ้นยังช่วยให้ระยะการนอนหลับลึกขึ้นอีกด้วย
- ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการนอนมากขึ้น
นักกายภาพบำบัดสามารถแนะนำการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการนอนหลับของคุณ เช่น ประเภทของที่นอนและหมอนที่รองรับการจัดตำแหน่งที่เหมาะสม สภาพแวดล้อมการนอนหลับที่เอื้ออำนวยช่วยลดความเครียดที่ไม่จำเป็นในร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่และส่งเสริมวงจรการนอนหลับอย่างต่อเนื่อง
.
การผสมผสานกายภาพบำบัดเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณช่วยแก้ปัญหาทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่ส่งผลต่อการนอนหลับ กายภาพบำบัดสามารถปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับโดยรวมผ่านกลไกทางสรีรวิทยาที่เข้าใจกันดี โดยการลดความเจ็บปวด ปรับปรุงการเคลื่อนไหว แก้ไขท่าทาง ลดความเครียด และปรับสภาพแวดล้อมการนอนหลับให้เหมาะสม และทำให้คุณภาพการนอนของคุณดีขึ้น