คลินิกรูปแบบไพรเวทสำหรับลูกค้า mr.big
รักษาอาการอะไรบ้าง
-
กลุ่มออฟฟิศซินโดรม
ยิ่งตำแหน่งที่สูงขึ้น ตำแหน่งปวดยิ่งมากขึ้น อาการปวดจากการทำงานส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความคิดสร้างสรรค์ ความกระตือรือร้น รีบจัดการตั้งแต่วันนี้ นักกายภาพบำบัดของ mr.big clinic ใช้เทคนิคหลากหลายขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์สาเหตุของอาการ และไม่เพียงรักษาจุดที่ปวดเท่านั้น เราแก้ไขที่ต้นเหตุ รวมถึงสอนการทรงท่าที่เหมาะ สอนจัด ergonomic ในที่ทำงาน ก่อนปล่อยลูกค้ากลับไปสู้ต่อ
-
บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
No room for pain, more room for play. อย่าให้ความปวดเป็นข้อจำกัด ในเกมกีฬาทุกคนอยากสนุกกับมันอย่างไร้ขีดจำกัด mr.big clinic ลดอาการบาดเจ็บ และทำให้คุณสามารถแสดงศักยภาพทางกีฬาออกมาถึงขีดสุด
-
อัมพฤกษ์ อัมพาต
ภาวะอ่อนแรงของกล้ามเนื้อเกิดจากการสั่งของร่างกายที่ไม่ปกติ mr.big clinic จะช่วยคุณให้สามารถสั่งร่างกายให้กลับมาเคลื่อนไหว และทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ฟื้นฟูได้อย่างเต็มศักยภาพ
-
กล้ามเนื้ออักเสบ
การบาดเจ็บเฉียบพลัน รบกวนการทำงานของคุณ หลายๆครั้งยังคงมีอาการจนถึงตอนนี้ mr.big clinic จะช่วยนำทางให้กล้ามเนื้อกลับมาซ่อมแซมและทำงานได้อย่างถูกต้องอีกครั้ง
-
ข้อเท้าพลิก-แพลง
การอักเสบของเส้นเอ็นทั้งปวดทั้งไม่มั่นคง mr.big clinic จะเสริมความมั่นคงของข้อต่อ เส้นเอ็น และยังลดอาการปวดขณะที่ทำกิจกรรมต่างๆ
-
ความเสื่อมของกระดูกสันหลัง
ความเสื่อมของร่างกายไม่ไกลตัว สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน mr.big clinic สามารถช่วยป้องกันได้ ด้วยการกายภาพบำบัด เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายในจุดที่สำคัญ ช่วยชะลอความเสื่อม
เครื่องมือที่เราเลือกใช้
Shockwave
เหมาะกับอาการแบบไหน
- อาการปวดเรื้อรังในกล้ามเนื้อและเอ็น
- การบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
- เริ่มมีอาการปวดหลังจากทำงานไปสักพัก
- มีอาการปวดเป็นประจำ
- มีอาการปวดทุกครั้งที่ทำกิจกรรม
- อาการปวดรบกวนการนอน
เหมาะกับใช้ที่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นตามบริเวณร่างกาย
- บ่าและหัวไหล่
- ข้อศอก
- หลัง
- ก้น
- หน้าขาและหัวเข่า
- น่อง
- ฝ่าเท้า
ระยะอาการไหนถึงควรเลือกใช้ Shockwave
- ระยะเรื้อรัง (14 วันขึ้นไป)
ผลที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษา
- เร่งกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ (Cell Proliferation)
- เพิ่มการสร้างคอลลาเจน (Procollagen synthesis)
- ลดการอักเสบ (decreasing the release of inflammatory mediators)
- ลดการส่งสัญญาณอาการปวดไปยังสมอง (Gate control theory)
- เพิ่มความยืดหยุ่น การเคลื่อนไหว (Flexibility and movement)
ผลข้างเคียงหลังรักษา
- บวม ผื่นแดง
- ห้อเลือด
- จุดเลือดออก
- อาการล้าชั่วคราว
High Intensity Laser
เหมาะกับอาการแบบไหน
- กลุ่มคนที่มีอาการปวดเฉียบพลัน
- มีอาการชาปลายประสาท
- มีอาการปวดมาก
- เพิ่งเกิดการอักสบเกิดขึ้น
เหมาะกับใช้ที่ตำแหน่งใดของร่างกาย
- บริเวณกล้ามเนื้อ
- เอ็นและเยื่อหุ้มข้อต่อ
- บริเวณข้อต่อ
- แผลจากการผ่าตัด
ระยะอาการไหนถึงควรเลือกใช้ Laser
- ระยะอักเสบ (1-14 วัน)
ผลที่เกิดขึ้นจากการรักษา
- เนื้อเยื่อซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็ว (Increase cell regeneration)
- ลดอาการอักเสบ (Decrease inflammation)
- เร่งกระบวนการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อ (Biological effect)
- ลดความไวการรับความรู้สึกของปลายประสาท (Decreases nerve sensitivity)
ผลข้างเคียงหลังรักษา
- ผิวสีแดงเล็กน้อย
- ระคายเคืองผิวเล็กน้อย
- รู็สึกล้าเล็กน้อย
Ultrasound
เหมาะกับอาการแบบไหน
- ใช้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ
- กระดูกและเส้นเอ็น
- เจ็บปวดกล้ามเนื้อ
- การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ
- มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
เหมาะกับใช้ที่ตำแหน่งใดของร่างกาย
- สามารถใช้ได้ทุกตำแหน่งของร่างกาย โดยเฉพาะจุดที่มีอาการปวด
ระยะไหนของอาการที่ควรเริ่มใช้ Ultrasound
- ระยะอักเสบ (1-14 วัน)
- ระยะเรื้อรัง (14 วันขึ้นไป)
ผลที่เกิดขึ้นจากการรักษา
- เร่งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ (increasing the activity levels of the whole cell)
- เพิ่มการแลกเปลี่ยนสารระดับเซลล์ (Allow cell membrane potential)
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Stimulate the body's creation of new collagen)
- ลดอาการปวด (Gate control theory)
ผลข้างเคียงหลังรักษา
- ผิวสีแดงเล็กน้อย
Electro Therapy
เหมาะกับอาการแบบไหน
- กล้ามเนื้อที่ขาดเส้นประสาทมาเลี้ยง
- ผู้ที่มีอาการบวม
- ผู้ที่กล้ามเนื้อหดเกร็ง
- ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง
- ผู้ที่มีอาการปวดรุนแรง
เหมาะกับใช้ที่ตำแหน่งใดของร่างกาย
- สามารถใช้กับทุกตำแหน่งของร่างกาย
ระยะไหนของอาการที่ควรเริ่มใช้ Electro Therapy
- ระยะอักเสบ (1-14 วัน)
- ระยะเรื้อรัง (14 วันขึ้นไป)
ผลที่เกิดขึ้นจากการรักษา
- ลดปวด (Decrease pain)
- ลดบวม (Decrease edema)
- เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Increase muscle strength)
- เร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ (Increase regeneration)
- เพิ่มการไหลเวียนโลหิต (Increases blood flow)
- กล้ามเนื้อคลายตัว (Muscle relaxation)
ผลข้างเคียงหลังรักษา
- ระคายเคืองผิวเล็กน้อย
Cryo-Thermal
เหมาะกับอาการแบบไหน
- ผู้ที่มีอาการบวม
- ผู้ที่มีอาการปวด
- ผู้ที่มีประวัติการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกภายใน
เหมาะกับใช้ที่ตำแหน่งใดของร่างกาย
- สามารถใช้ได้ทุกตำแหน่งยกเว้นบริเวณแผลเปิด
ระยะไหนของอาการที่ควรเริ่มใช้ Cryo-Thermal
- ระยะอักเสบ (1-14 วัน)
- ระยะเรื้อรัง (14 วันขึ้นไป)
ผลที่เกิดขึ้นจากการรักษา
- ลดปวด (Decrease pain)
- ลดบวม (Decreases edema)
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด (Increase blood circulation)
- ยับยั้งการอักเสบ (Decrease inflammation)
ผลข้างเคียงหลังรักษา
- ผิวหนังแดง
- วิงเวียนศีรษะ
EMG Feedback
เหมาะกับอาการแบบไหน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ควบคุมกล้ามเนื้อผ่อนคลายไม่ได้
- กล้ามเนื้อเกร็งตัวตลอดเวลา
- มีปัญหาการกดทับเส้นประสาท
เหมาะกับใช้ที่ตำแหน่งใดของร่างกาย
- เหมาะใช้กับกล้ามเนื้อบริเวณที่มีพยาธิสภาพ
ระยะไหนของอาการที่ควรเริ่มใช้ EMG Feedback
- ระยะอักเสบ (1-14 วัน)
- ระยะเรื้อรัง (14 วันขึ้นไป)
ผลที่เกิดขึ้นจากการรักษา
- กล้ามเนื้อควบคุมได้(Increase muscle control)
- กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น (Increase muscle strength)
- กล้ามเนื้อมีความทนทาน (Increases muscle endurance)
- กล้ามเนื้อสามารถผ่อนคลายได้ (muscle relaxation)
ผลข้างเคียงหลังรักษา
- ผิวหนังแดงเล็กน้อย
- อาการล้าจากการออกแรง
การบริหารให้ถูกจุด
เพื่อเพิ่มพิสัยของการเคลื่อนไหว (Range of motion exercise)
มักจะมีอาการตึงหรือติดของข้อเกิดขึ้นจากการหดสั้นของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบๆข้อ มีการเพิ่ม Collagen และ reticulin ในเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ร่วมกับการน้ำหล่อลื่นของข้อลดลง
การเคลื่อนไหวเพิ่มพิสัยจะลดความยึดตึงขอกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบๆข้อ ทำให้ Collagen และ reticulin มีความยืดหยุ่นเพียงพอ
เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และคงทน (Movement for strength and endurance)
โดยเป็นการบริหารให้กล้ามเนื้อทำงานเอง (active movement) ซึ่งสามารถทําได้ใน 3 รูปแบบคือ isometric, isotonic, isokinetic ความแข็งแรง (strength) ของกล้ามเนื้อ หมายถึงแรงตึงตัว (tension) สูงสุดที่กล้ามเนื้อสามารถทำได้ในการหดตัว เพื่อกระตุ้นการสะสมของเซลล์กล้ามเนื้อเนื่องจากกล้ามเนื้อจะเรียนรู้ว่าต้องใช้แรงตึงตัวจะเกิดการสร้างเซลล์กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
เพื่อเพิ่มความสามารถในการประสานงานของกล้ามเนื้อ (Coordination movement)
กล้ามเนื้อจะทำงานประสานกันได้ดี ราบรื่น ต้องอาศัยการทํางานประสานกัน 3 อย่าง คือ การทำงานระบบประสาท กลุ่มกล้ามเนื้อ และระดับ motor unit หลักการฝึกจะเริ่มตั้งแต่การฝึกกล้ามเนื้อแต่ละมัด หรือเรียกว่า muscle re-education เป็นการฝึกเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้แก่กล้ามเนื้อในระยะแรก เมื่อทำได้ดีแล้วจะทําการฝึก neuromuscular coordination เพื่อให้เคยชินในกิจกรรมประจำวัน โดยกล้ามเนื้อควรทำงานอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่ได้สั่งการ (Automatic function)
เพื่อการผ่อนคลาย (Relaxation)
ใช้ในกลุ่มที่มีอารมณ์ตึงเครียด หรือมีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวด หลักการคือต้องจัดให้อยู่ในภาวะที่สบายและผ่อนคลายที่สุด จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการพัก ไม่มีสิ่งรบกวนหรือกระตุ้น ผู้บำบัดจะสอนให้เรียนรู้การผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงแข็ง และให้ทราบความรู้สึกที่แตกต่างกันระหว่าง ความตึงเครียดกับการผ่อนคลาย ทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จนสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้เต็มที่ และสามารถบังคับได้แม้ในภาวะแวดล้อมที่ต่างกันออกไป หรืออาจใช้ เครื่องมือทางไฟฟ้ามาช่วยในการฝึกได้